ระบบเทรด Forex , การเทรดเป็นระบบ คืออะไร ?
การเทรดอย่างเป็นระบบ คือการวางแผนการเทรด โดยใช้กลยุทธ์ ที่ทำการทดสอบ,เก็บสถิติมาแล้ว
- ซึ่งต้องนำข้อมูลสถิติมาใช้ยืนยัน ว่าการเทรดในรูปแบบดังกล่าวนั้นมีประสิทธิภาพจริง
- สามารถที่จะทำกำไร และอยู่รอดได้จริงในระยะยาว
- โดยการเทรด Forex อย่างเป็นระบบนั้น "จะใช้หลักสถิติเป็นสำคัญ"
*ตัวอย่าง แบบเข้าใจง่าย
- หากคุณไม่มีความรู้ แล้วเข้ามาเทรด Forex
- Forex มีขึ้นกับลง โอกาสจึง = 50 : 50
- หากคุณ เทรดถูกทาง = กำไร
- หากคุณ เทรดผิดทาง = ขาดทุน
หากคุณมีการวางแผนการเทรดอย่างเป็นระบบ
มีการเทรดอย่างเป็นกลยุทธ์ อาจจะใช้เครื่องมือ Indicator ต่าง ๆ ในการวิเคราะห์แนวโน้มทิศทางของราคา
- และได้เก็บสถิติ, ทดสอบย้อนหลังพิสูจน์มาแล้ว
- นั้นจะช่วยให้มีความแม่นยำ, อัตราการทำกำไรสูงขึ้น
- คุณจะสามารถประเมิน ผลกำไรเฉลี่ย, อัตราความเสี่ยงได้
*ตัวอย่าง เพื่อความเข้าใจได้ง่าย
- คุณสามารถที่จะเปลี่ยนอัตราการชนะ จากเดิมที่ไม่มีความรู้คือ 50:50 ให้กลายเป็น 60:40, 70:30 ได้
- ซึ่งอัตราการชนะ (Win Rate), อัตราการทำกำไรนั้น ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ระบบเทรดของคุณ
ช่วยในการประเมินผลลัพธ์
- การเทรดอย่างเป็นระบบ,มีการเก็บสถิติ จะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้
- ผลกำไรเฉลี่ยต่อเดือน/ต่อปี
- อัตราการขาดทุนสะสมสูงสุด (Maximal Draw-Down)
- จำนวนเงินทุนที่ควรใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับผลกำไรที่คาดหวัง
ระบบเทรด มีความสำคัญมาก
*การเทรดโดยปราศจาก ระบบเทรด นั่นเปรียบเสมือน "การเดินทางโดยไร้แผนที่"
- เริ่มต้นแล้ว ไม่รู้จะไปจบที่ไหน ไม่มีแผนการ เสมือนวัดดวงไปวันๆ
- โอกาสที่จะสำเร็จในระยะยาวได้นั้น มีน้อยเหลือเกิน
การมีระบบเทรดที่ดี ช่วยให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่ง
- นักลงทุนมืออาชีพหลายคน ใช้เวลานานหลายปี ในการวิจัยพัฒนาระบบเทรด
- การลองผิดลองถูกทดสอบไปเรื่อยๆ เพื่อหากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับ Life Style ของตัวเอง
ระบบเทรดเปรียบเสมือนยานพาหนะ
- ยานพาหนะ ที่มีสมรรถนะสูง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม
- ช่วยให้คุณเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
- แต่ยานพาหนะที่คุณภาพต่ำ นอกจากจะไปไม่ถึงจุดหมายแล้ว ยังไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ระบบเทรดที่ดี ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน
- ในบทสัมภาษณ์ของนักลงทุน ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนั้น
- เราไม่เคยได้ยินว่าพวกเขาใช้ ระบบเทรดที่พิสดารเลย
- คุณทราบหรือไม่ : ระบบเทรดของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นค่อนข้างเรียบง่าย
- แต่ผ่านการเก็บสถิติทดสอบมาแล้วเป็นอย่างดี ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง
- และการมีวินัยที่จะเทรดตามแผนการของระบบ
ระบบเทรดแบบอัตโนมัติ Expert Advisor
- หากคุณมีความสนใจในระบบเทรดอัตโนมัติหรือ EA
- คุณก็จำเป็น ที่จะต้องเรียนรู้หลักการทำงานของมันด้วยเช่นกัน
คุณควรทดสอบ EA ด้วยสถิติย้อนหลังก่อน (Back-Test) อย่างน้อย 3-5 ปี
- จากนั้นนำไปทดสอบ Forward Test บนบัญชี Demo ก่อนอีกครั้งอย่างน้อย 1-3 เดือน
- เพื่อที่วัดผลความแปรผันระหว่าง การเทรดจริง และ Back-Test
## ระบบเทรด 123
123 Trading system คือการหาสัญญาณ Buy และหาสัญญาณ Sell จากการนับคลื่นเป็น คลื่นที่ 1 คลื่นที่ 2 และคลื่นที่ 3
123 Tradings System จะประกอบด้วย
1. 123 Buy
2.123 Sell
เรามาดู 123 Buy กันก่อนนะครับ
หลักการของ 123 Buy ก็คือ จุดที่ 1 ต้องเป็นจุดที่ต่ำที่สุด จากนั้นราคาจะขึ้นมาทำจุดที่ 2 และลงไปปรับฐานที่จุดที่ 3 ดังรูปด้านล่างครับ
จากรูปด้านบนจะเห็นว่า จุดที่ 1 คือจุดทีต่ำที่สุด และราคาได้ขึ้นมาที่จุดที่สอง และลงมาปรับฐานที่ จุดที่สาม ซึ่งมีข้อสังเกตอยู่ว่า จุดที่3ต้องลงไปแล้วต้องไม่ต่ำกว่าจุดที่ 1 ตำแหน่งของจุดที่ 3 ต้องปรับฐานไม่เกิน 2/3 ของระยะจากจุดที่ 1 ถึงจุดที่ 2 เราอาจจะใช้ Fibonacci Retracement ในการหาราคาปรับฐานของจุดที่ 3 ได้ดังรูป ครับ
จากรูปเราจะเห็นว่า ราคาไม่สามารถผ่าน Fibonacci 38.2 % ข้อสังเกตอีกหนึ่งข้อคือ ราคาปรับฐานของจะต้องอยู่ในช่วง 38.2-61.8% ถ้าลงต่ำกว่า 38.2 % ราคาจะลงไปทดสอบ Low อีกครั้ง
Take Profits การหาเป้าหมาย เราสามารถวัดหาเป้าหมายโดยการใช้ Fibonacci โดยเป้าหมายจะอยู่ที่ 138.2 -423.6 % ขึ้นอยู่กับสภาพของตลาด ดูรูปด้านล่างเลยครับ
การตั้ง stop loss ,sl เมื่อเราเข้า Buy ที่ตำแหน่งที่ 3 แล้ว ถ้าเกิดความผิดพลาดราคาไม่ขึ้นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ ตำแหน่งที่เราควรจะตัดทิ้ง Cut Loss ก็คือ ที่ตำแหน่งที่ 1 หรือต่ำกว่าตำแหน่งที่ 1 ประมาณ 10 จุด เพราะบางครั้ง ราคาอาจจะลงไปทำ Double bottom แล้วเกิดการกลับตัวขึ้นมา
ตัวอย่างสัญญาณ 123 Buy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น